ปีใหม่ 2567 ที่จะมาถึงนี้ คาดว่าจะเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงและความท้าทาย โดยปัจจัยต่างๆ เช่น อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน และปัญหาห่วงโซ่อุปทาน จะยังคงกดดันเศรษฐกิจโลกอยู่บ้าง อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยบวกบางประการที่อาจช่วยหนุนเศรษฐกิจ เช่น การฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจโลก และแนวโน้มดอกเบี้ยขาลงของธนาคารกลางสหรัฐฯ

สำหรับประเทศไทย คาดว่าเศรษฐกิจจะเติบโตได้ประมาณ 3.5% ในปี 2567 โดยมีปัจจัยหนุนจากการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว การลงทุนภาคเอกชนที่ขยายตัว และการส่งออกที่ยังคงเติบโต อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตาม เช่น อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น และความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน

สำหรับผู้บริโภค คาดว่าจะมีแนวโน้มระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น อย่างไรก็ดี ยังคงมีความต้องการสินค้าและบริการที่จำเป็นอยู่บ้าง เช่น สินค้าอุปโภคบริโภค อาหารและเครื่องดื่ม เป็นต้น

สำหรับผู้ประกอบการ คาดว่าจะมีแนวโน้มปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจมากขึ้น โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาสินค้าและบริการที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน

สำหรับรัฐบาล คาดว่าจะยังคงดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและบรรเทาผลกระทบจากปัจจัยเสี่ยงต่างๆ

สำหรับแนวทางในการเริ่มต้นปีใหม่ 2567 ได้อย่างสดใสและมีความสุขนั้น ผู้บริโภคควรให้ความสำคัญกับปัจจัยต่างๆ ดังนี้

• วางแผนการเงินอย่างรอบคอบ โดยคำนึงถึงอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น และวางแผนการใช้จ่ายให้เหมาะสมกับรายได้
• ดูแลสุขภาพร่างกายและจิตใจ โดยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และพักผ่อนให้เพียงพอ
• เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เพื่อพัฒนาตนเองและเพิ่มโอกาสในการทำงาน
• ช่วยเหลือสังคม เพื่อแบ่งปันความสุขให้กับผู้อื่น

นอกจากนี้ ผู้บริโภคควรติดตามข่าวสารและสถานการณ์ทางเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด เพื่อปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจ